25% นั่นคือถ้าซื้อพันธบัตรที่ราคาพาร์ 1, 000 บาท จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 5. 25% แต่ปัจจุบัน Yield ของพันธบัตรดังกล่าวที่ซื้อขายในตลาดอยู่ที่ระดับ 3. 50% ถ้าไปดูราคาตลาดของพันธบัตรใบนี้จะพบว่าปัจจุบันอยู่ในระดับ 1, 100 บาท นั่นคือราคาซื้อขายของตราสารใบนี้สูงกว่าราคาพาร์ (Premium) โดยนักลงทุนที่ซื้อต้องจ่ายเงินลงทุน 1, 100 บาท และได้คูปองปีละ 5. 25% (คิดเป็น 52. 5 บาทต่อปี) โดยเมื่อพันธบัตรครบอายุในปี 2014 ก็สามารถนำไปไถ่ถอนคืนเงินต้นได้ที่ราคา 1, 000 บาท คิด เป็นตัวเลขคร่าว ๆ คือ ลงทุนวันนี้ 1, 100 บาท อีก 5 ปีไถ่ถอนได้เงินคืน 1, 000 บาท ก็คือขาดทุนปีละ 20 บาท เมื่อมารวมกับดอกเบี้ยปีละ 52. 5 บาท Net แล้วคือได้ดอกเบี้ยประมาณ 32. 5 บาท (เมื่อคิดรวมกับหลัก Present Value แล้วจะได้เป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีหรือ Yield 3. 50% พอดี) ความสำคัญของ Yield Yield นับเป็นดอกเบี้ยตัวหนึ่งที่สะท้อนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในอนาคตของตลาด เช่นในปี 2008 ช่วงเดือน เม. ย. – มิ. ที่ Yield พันธบัตร 2 ปี ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากประมาณ 3% ไปถึงระดับเกือบ 5% (ตามรูป) เนื่องจากในช่วงนั้นเงินเฟ้อของไทยขึ้นไปถึงประมาณ 9% ทำให้นักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่แบงค์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ยได้มาก ซึ่งหลังจากนั้นในช่วงเดือน ก.
แนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนใหม่หรือลงทุนเพิ่ม แนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่ต้องการพักเงิน หรือใช้เงิน เช่น หากต้องการพักเงินในกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือนขึ้นไป ขอแนะนำกองทุน K-SFPLUS ทั้งนี้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามตารางด้านล่าง . Disclamer: "ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน" ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, KSecurities, Google Finance, Tradingview บทความโดย K WEALTH GURU มนัสวี เด็ดอนันต์กุล อัปเดตทุกเรื่องลงทุนที่คุณต้องรู้ ผ่าน KBank Live เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง สำรวจว่าคุณ เป็นนักลงทุนแบบไหน คลิก ปรึกษา @KWealth