3 โรคนี้สามารถรักษาได้หรือไม่? ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดอักเสบส่วนใหญ่อาการดีมักไม่ต้องใช้ยาใด แค่เพียงนอนพักในขณะเกิดอาการ การรักษาส่วนใหญ่เพื่อประคับประคองอาการเช่น อาการปวดข้อ รักษาด้วยยาระงับปวด เช่น พาราเซตามอล หรือ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน และ นาพรอกเซน การให้ ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (กินหรือฉีดเข้าเส้นเลือด) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการแสดงระบบทางเดินอาหารที่รุนแรงหรือมีเลือดออก และอาการแสดงของระบบอื่นที่รุนแรงซึ่งพบไม่บ่อยนัก (เช่น อัณฑะ) หากมีอาการทางไตที่รุนแรง ควรตัดชิ้นเนื้อไตไปตรวจ และเริ่มให้การรักษาด้วยยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์และยากดภูมิคุ้มกันร่วมด้วย 2. 4 ผลข้างเคียงจากยาที่ใช้รักษาคืออะไร? ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดอักเสบส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องได้รับยาในการรักษา หรือได้รับยาเพียงช่วงสั้นๆ ดังนั้นมักไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง ในผู้ป่วยน้อยรายที่มีอาการทางระบบไตรุนแรงจำเป็นต้องได้ยาเพรดนิโซโลนและยากดภูมิคุ้มกันอื่นเป็นเวลานานอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ 2. 5 โรคนี้คงอยู่นานแค่ไหน? ระยะเวลาเป็นโรคใช้เวลาทั้งหมดโดยประมาณ 4-6 สัปดาห์ ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดมักเกิดการกลับเป็นซ้ำอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วง 6 สัปดาห์แรก โดยมักเป็นในช่วงสั้นๆและอาการรุนแรงน้อยกว่าครั้งแรกที่มีอาการ การกลับเป็นซ้ำของโรคมักเป็นไม่นาน และการกลับเป็นซ้ำไม่ได้บ่งชี้ถึงโรคที่รุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่หายเป็นปกติเหมือนเดิม 3.
4 โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือไม่? ติดต่อกันได้หรือไม่? สามารถป้องกันได้หรือไม่? โรคนี้ไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่สามารถป้องกันได้ 1. 5 อาการแสดงที่สำคัญ?
รีวิวประสบการของชาว Pantip เกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยในตาแตก โดยทั่วไป เ ส้นเลือดฝอยในตาแตกจะไม่มีอาการผิดปกติ ยกเว้นในบางรายอาจมีความรู้สึกระคายเคืองตา ขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดเส้นเลือดฝอยในตาแตกมีหลายอย่าง เช่น จากการขยี้ตาหรือมีแผลถลอกที่บริเวณเยื่อบุตาร่วมด้วยก็อาจจะทำให้รู้สึกระคายเคืองตา ไม่สบายตาได้ บทความนี้รวบรวมประสบการณ์ของชาว Pantip เกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยในตาแตก [สถาบันโรคผิวหนัง] ที่ชาว Pantip แนะนำในปี 2022!! ถ้าเส้นเลือดฝอยในตาแตกต้องทำอย่างไรบ้างชาว Pantip มีคำตอบ!!
4 ควรกินอาหารอะไร? ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอาหารมีผลต่อโรคนี้ โดยทั่วไปเด็กควรกินอย่างสมดุลตามวัย เด็กที่กำลังเจริญเติบโตต้องการอาหารที่เหมาะสม มีโปรตีน แคลเซียม และวิตามินที่เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มากเกินไปในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ เพราะยานี้อาจทำให้มีความอยากอาหารมากขึ้น 3. 5 สภาพอากาศมีผลกระทบต่อระยะเวลาของโรคหรือไม่? ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสภาพอากาศมีผลต่ออาการแสดงของโรค 3. 6 ผู้ป่วยสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่? ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อนและให้กุมารแพทย์เป็นผู้ดูแลนัดหมายการฉีดวัคซีนให้เหมาะสมตามอายุ โดยทั่วไปการฉีดวัคซีนไม่ทำให้โรคกำเริบและไม่เป็นสาเหตุของการแพ้อย่างรุนแรงในฐานข้อมูลผู้ป่วย แต่อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนเชื้อเป็นเนื่องจากมีสมมติฐิฐานว่าทำให้เกิดการติดเชื้อในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันหรือสารชีวภาพ 3. 7 ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเกี่ยวกับชีวิตทางเพศ การตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด? จนกระทั่งปัจจุบันนี้ยังไม่มีข้อห้ามสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ตามปกติหรือการตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่ได้รับยาควรระมัดระวังถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลข้างเคียงของยาต่อทารกในครรภ์ ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในเรื่องเกี่ยวกับการคุมกำเนิดและการตั้งครรภ์
6 โรคนี้เป็นเหมือนกันในผู้ป่วยทุกคนหรือไม่? โรคนี้มีความเหมือนกันไม่มากก็น้อยในผู้ป่วยแต่ละราย แต่อาการแสดงออกทางผิวหนังหรืออวัยวะที่เกี่ยวข้องนั้นอาจแตกต่างกันได้มากในผู้ป่วยแต่ละราย 1. 7 โรคนี้ในเด็กกับผู้ใหญ่มีความแตกต่างกันหรือไม่? โรคนี้ในเด็กและผู้ใหญ่ไม่มีความแตกต่างกันแต่มักไม่ค่อยเกิดในผู้ป่วยหนุ่มสาว 2. 1 วินิจฉัยอย่างไร? การวินิจฉัยโรคเส้นเลือดอักเสบเริ่มจากอาการเป็นหลัก และดูจากผื่นนูนที่มักเกิดบริเวณขาทั้งสองข้าง และก้น ร่วมกับอาการอย่างน้อยหนึ่งข้อต่อไปนี้ ปวดท้อง ปวดข้อหรือภาวะข้ออักเสบ และมีอาการทางไตร่วมด้วย (ส่วนใหญ่มักมีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ) ควรวินิจฉัยแยกโรคอื่นที่มีความคล้ายคลึงกันออกไปก่อน การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางจุลกายวิภาคจะพบว่ามีอิมมูโนโกลบูลิน เอ แต่มักไม่จำเป็นต้องทำเพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรค 2. 2 การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการทดสอบอะไรที่มีประโยชน์? ไม่มีการตรวจใดที่เฉพาะเจาะจงต่อการวินิจฉัยโรคเส้นเลือดอักเสบ ค่าอักเสบทั้ง Erythrocyte sedimentation rate (ESR) และ C-reactive protein (CRP ซึ่งเป็นการวัดการอักเสบ) อาจปกติหรือสูงขึ้นได้ การตรวจพบเลือดในอุจจาระอาจบอกถึงการมีเลือดออกจากลำไส้เล็ก การตรวจปัสสาวะตลอดช่วงการดำเนินโรคช่วยติดตามภาวะทางไต การมีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะปริมาณเล็กน้อยพบได้บ่อยสามารถหายเองได้ การตรวจชิ้นเนื้อไตจำเป็นในผู้ป่วยที่มีภาวะทางไตรุนแรง (ในกรณีที่มีค่าการทำงานของไตลดลงหรือมีโปรตีนในปัสสาวะจำนวนมาก) การทำอุลตร้าซาวน์เพื่อวินิจฉัยแยกโรคอื่นที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือดูภาวะแทรกซ้อนของโรค เช่น ภาวรลำไส้อุดกั้น 2.
1. 1 อะไรคือโรคเส้นเลือดฝอยอักเสบ? โรคเส้นเลือดฝอยอักเสบเกิดจากการอักเสบของเส้นเลือดฝอย การอักเสบที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า ภาวะเส้นเลือดอักเสบ และมักเกิดบริเวณหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณผิวหนัง, ลำไส้, และไต โดยภาวะอักเสบบริเวณหลอดเลือดทำให้มีเลือดออกในบริเวณผิวหนัง หรือเยื่อบุ ทำให้เกิดผื่นนูนสีแดงคล้ำหรือสีม่วง นอกจากนี้อาจมีเลือดออกที่บริเวณลำไส้หรือไต ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการถ่ายเป็นเลือดหรือปัสสาวะเป็นเลือดได้ 1. 2 พบได้บ่อยแค่ไหน? โรคเส้นเลือดฝอยอักเสบ ถึงแม้ไม่ใช่โรคที่พบบ่อยในเด็ก แต่ก็เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มของโรคเส้นเลือดอักเสบทั้งหมดที่พบในเด็กอายุ 5-15 ปี พบในเด็กชายมากกว่าหญิง (2:1) โรคนี้ไม่มีเกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ หรือการกระจายตัวตามเขตภูมิศาสตร์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในประเทศยุโรปและประเทศทางแถบซีกโลกเหนือ เกิดขึ้นในฤดูหนาว แต่อย่างไรก็ตามในบางครั้งพบผู้ป่วยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิด้วยเช่นเดียวกัน โรคเส้นเลือดอักเสบพบได้ประมาณ 20 ในประชากรเด็ก 100, 000 รายต่อปี 1. 3 สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคคืออะไร?
กี่วันเห็นผล? 2-3 อาทิตย์ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน เมื่ออาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาลดลง 100% หลัง 14 วันฟิลเลอร์จะเข้าที่ กลืนไปกับผิว และเห็นผลชัดเจนประมาณ 2-3 อาทิตย์ ในระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณใต้ตา หรือจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ครับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดีอย่างไร? เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นเจ็บน้อย หรือบางคนอาจจะไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ เพราะก่อนฉีดแพทย์จะมีการแปะยาชาก่อนทุกครั้ง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สามารถแก้ปัญหาใต้ตา เช่น มี ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล และริ้วรอยใต้ตาได้ตรงจุด เห็นผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นาน 6-18 เดือน มีความปลอดภัย ใช้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลกที่ อย.
ในรายที่มีสาเหตุจากการได้รับบาดเจ็บที่ตา ถ้า มีอาการปวดตา ตาพร่ามัว หรือมีเลือดออกในช่องลูกตา หน้า ควรส่งโรงพยาบาลด่วน 2. ถ้ามีจุดแดงจ้ำเขียว มีเลือดตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย มีไข้ ตับโต ม้ามโต หรือสงสัยมีสาเหตุที่ร้ายแรงควรส่งโรงพยาบาลด่วน 3. ถ้ามีสาเหตุจากการไอจาม หรือไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ไม่ปวดตาและยังมองเห็นชัดดี ก็ไม่ต้องทำอะไร รอยห้อเลือดจะค่อยๆ จางหายได้เองใน 1-4 สัปดาห์ ควรอธิบายให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจเพื่อให้หายกังวล
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน หลังฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยใต้ตาได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นครับ ก่อนที่ฟิลเลอร์ใต้ตาจะเข้าที่ อาการข้างเคียงที่สามารถพบได้ คือ อาการบวม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน? เกิดจากอะไร? อันตรายไหม? มีวิธีดูแลอย่างไร? ติดตามได้ในบทความนี้ครับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน? 3-7 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เขียวช้ำ หรือคัน พบได้เป็นเรื่องปกติครับ ประมาณ 3-7 วัน สามารถหายได้เองครับ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ถ้าหากมีอาการปวดร่วมด้วย สามารถรับประทานยาแก้ปวดตามอาการได้ (หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา พบอาการบวมได้เป็นเรื่องปกติ) (ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาร่องใต้ตาลึก) วิธีสังเกตอาการบวมของฟิลเลอร์ใต้ตา ลักษณะอาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ ทั้งฟิลเลอร์ใต้ตา และฟิลเลอร์ในจุดอื่น ๆ มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 1. อาการบวมเข็ม เกิดขึ้นได้เป็นปกติ ไม่เป็นอันตราย หายได้เอง อาการบวมที่เกิดจากการฉีดยาชา อาการบวมที่เกิดจากเข็ม ฉีดฟิลเลอร์ไปถูกเส้นเลือดฝอย 2.
วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล (Wutinan Sithipolvanichgul, M. D. ) ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ผิวหนังและการออกแบบรูปหน้า รูปร่าง Dermatologist Specialized in Dermatologic Surgery and Laser