ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้ สรุป 1. ไทยขยับมาเป็นประเทศน่าลงทุนอันดับ 4 จากเดิมอันดับ 5 จากผลการสำรวจแนวโน้มการลงทุนโดยตรงของอุตสาหกรรมการผลิตญี่ปุ่นในต่างประเทศปี 2552 2. เดือน ก. ย. 52 จำนวนคำสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10. 5 เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว 3. จำนวนหนี้สาธารณะญี่ปุ่นเพิ่มถึง 864 ล้านล้านเยนโดยมีภาระหนี้ต่อหัวประชากรรายละจำนวน 678 ล้านเยน สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ 4. ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก. 52 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0. 2 เป็นผลจากการเกินดุลรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลจากการลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่การส่งออกลดลงร้อยละ -32. 1 การนำเข้าลดลงร้อยละ -37. 7 ----------------------------------- จากผลการสำรวจแนวโน้มการลงทุนโดยตรงของอุตสาหกรรมการผลิตญี่ปุ่นในต่างประเทศโดย JBIC พบว่าประเทศไทยในกลาง (ระยะ 3 ปีข้างหน้า) ไทยได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 4 จากเดิมอันดับที่ 5 แทนที่รัสเซีย เนื่องจากแนวโน้มการเจริญเติบโตของตลาดดีขึ้นและค่าแรงคงที่ แต่ในขณะเดียวกันหลายบริษัทก็ได้กล่าวถึงปัญหาด้านการแข่งขันระหว่างบริษัทญี่ปุ่นด้วยกันที่จะสูงขึ้นอย่างมากและจำนวนพนักงานระดับบริหารในประเทศไทยมีจำนวนไม่เพียงพอในปัจจุบัน การสำรวจครั้งนี้ ได้สุ่มผู้ตอบแบบสอบถามจากบริษัทญี่ปุ่นที่มีสาขาในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง โดยรวบรวมข้อมูลระหว่าง ก.
5 โดยคำสั่งซื้อภาคบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 35. 6 แต่คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิตลดลงร้อยละ 0. 1 3. จำนวนหนี้สาธารณะญี่ปุ่นเพิ่มถึง 864 ล้านล้านเยน จำนวนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนก. 52 มีจำนวน 864. 52 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 4. 27 ล้านล้านเยนจากสิ้นเดือนมิ. 52 ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีภาระหนี้ต่อหัวประชากรรายละจำนวน 678 ล้านเยน คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไป อย่างแน่นอน เนื่องจากรัฐบาลต้องออกพันธบัตรจำนวนเพิ่ม 29 ล้านล้านเยนจนถึงสิ้นเดือนมี. 53 ซึ่งสิ้นปีงบประมาณ 2552 เพื่อให้เพียงพอกับภาระรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาล 4. 2 กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก. 52 มีจำนวน 1. 57 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0. 2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว โดยยอดการเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่ยอดการเกินดุลการรายได้ลดลง การเกินดุลการค้าและบริการมีจำนวน 560. 3 พันล้านเยน ส่วนการเกินดุลการค้ามีจำนวน 599. 2 พันล้านเยนโดยยอดการส่งออกลดลงร้อยละ -32.
เผยแพร่เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2560 สร้างเมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2560 อัปเดตล่าสุดเมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2560 ทำความรู้จักกับสมุดบัญชีแยกประเภท (Ledger) สมุด บัญชี แยกประเภทเป็นสมุดบัญชีขั้นปลายที่ใช้บันทึกรายการค้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยจำแนกออกให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกในการ ที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการสรุปผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของกิจการ ซึ่งสมุดบัญชีแยกประเภทสามารถแบ่งออกได้ เป็น 2 ชนิด คือ 1. สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป (General Ledger) สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป (General Ledger) เป็นสมุดบัญชีแยกประเภทหลักที่กิจการจะต้องจัดทำ โดยสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไปนี้จะประกอบไปด้วยบัญชีต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น บัญชีเงินสด บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้ บัญชีรายได้ บัญชีค่าใช้จ่าย เป็นต้น 2. สมุดบัญชีแยกประเภทย่อย (Subsidiary Ledger) สมุดบัญชีแยกประเภทย่อย (Subsidiary Ledger) เป็นสมุดบัญชีแยกประเภทย่อยที่กิจการจะจัดทำหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าจัดทำก็จะช่วยให้ทราบข้อมูลได้ละเอียดมากขึ้น ซึ่งสมุดบัญชีแยกประเภทย่อยจะประกอบด้วย - สมุดบัญชีแยกประเภทเจ้าหนี้ (Accounts Payable Ledger) - สมุดบัญชีแยกประเภทลูกหนี้ (Accounts Receivable Ledger) รูปแบบของสมุดบัญชีแยกประเภทมี 2 รูปแบบ คือ 1.
ลูกค้าส่วนใหญ่ของ BBS มักใช้วิธีการคำนวณค่าเสื่อมแบบเส้นตรง (Straight Line) แต่ระบบ ECONS ยังรองรับวิธีการคำนวณอีกแบบคือ วิธียอดลดลงทวีคูณ (Double Declining) การคำนวณค่าเสื่อมแบบนี้ ส่วนใหญ่ใช้กับทรัพย์สินประเภทเครื่องจักร เนื่องจากมีหลักคิดดังนี้ 1. การใช้งานในปีแรก ๆ จะใช้งานมากกว่าปีหลัง ๆ เนื่องจากเป็นของใหม่ ไม่ค่อยเสีย ไม่ต้องบำรุงรักษามาก และมักจะเร่งคืนทุนโดยเร็ว ปีแรก ๆ จึงควรคิดค่าเสื่อมมากกว่าปีหลัง 2.
ดี ซอฟต์ จำกัด) บริการพัฒนา Module OpenERP บริการติดตั้งระบบ OpenERP บริการ Implement ระบบ ERP ด้วย Odoo
2 320. 2 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (87. 1) (-81. 9) การส่งออก (Exports) 4, 775. 5 7, 028. 4 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-32. 1) (2. 1) การนำเข้า (Imports) 4, 176. 4 6, 708. 2 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-37. 7) (31. 1) 1. 2 ดุลบริการ (Services Balance) -38. 9 -152. 5 1. 2 รายได้จากดอกเบี้ย/เงินปันผล (Income) 1, 082. 3 1, 486. 0 1. 3 การโอนรายได้ (Current Transfers) -74. 7 -89. 1 2. ดุลบัญชีทุนและการเงิน (Capital & Financial Account Balance) -2, 265. 2 -1, 561. 0 2. 1 ดุลบัญชีการเงิน (Financial Account Balance) -2, 255. 7 -1, 475. 3 การลงทุนโดยตรง (Direct Investment) -685. 6 -583. 8 การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ (Portfolio Investment) -5, 665. 3 -8, 303. 1 การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ด้านการเงิน (Financial Derivatives) -56. 1 140. 1 การลงทุนอื่นๆ (Other investments) 4, 151. 3 7, 271. 5 2. 2 ดุลบัญชีทุน (Capital Account Balance) -9. 6 -85. 8 3. ยอดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิ (Changes in Reserve Assets) -8. 4 -307. 6 สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665:
แบบมาตรฐาน (Standard Account Form) บัญชีแยกประเภทในรูปแบบมาตรฐานนั้นจะเห็นได้ว่ามีลักษณะคล้ายตัว "T" คือแบ่งบัญชีออกเป็น 2 ด้าน ด้านซ้ายคือด้านเดบิต และด้านขวาคือด้านเครดิต ดังนั้นบัญชีแยกประเภทรูปแบบมาตรฐานนี้จึงมักจะเรียกกันว่า บัญชีตัว "T" หรือ T-Account บัญชีแยกประเภทรูปแบบมาตรฐานนี้จะใช้กับสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป 2. แบบแสดงยอดคงเหลือ (Balance Account Form) รูปแบบของสมุดบัญชีแยกประเภทแบบแสดงยอดคงเหลือนี้ จะแสดงให้เห็นถึงยอดคงเหลือของบัญชีทันทีว่าหากมีรายการค้าเกิดขึ้นยอดคงเหลือของบัญชีนั้น ๆ จะเป็นเท่าไร ซึ่งโดยทั่วไปมักจะใช้กับสมุดบัญชีแยกประเภทย่อยไม่ว่าจะเป็นสมุดบัญชีแยกประเภทลูกหนี้ และสมุดบัญชีแยกประเภทเจ้าหนี้ เพราะจะทำให้ทราบยอดคงเหลือของบัญชีลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ได้ทันที นอกจากนี้ทาง บริษัท เอ็ม. ดี. ซอฟต์ มี บริการติดตั้งระบบ OpenERP, บริการพัฒนา Module OpenERP รวมไปถึงการจัด อบรมการใช้งาน Odoo9 เบื้องต้น สำหรับการนำไปใช้งาน ERP ในองค์กร ท่านสามารถที่จะลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมอบรมได้ที่ ลงทะเบียนอบรม Odoo9 ค่ะ หากสนใจสามารถที่จะสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการได้ที่ สอบถามข้อมูลบริการ ได้ค่ะ บทความที่เกี่ยวข้อง: บริษัทควรจะเลือกใช้ โปรแกรมบัญชี หรือ ERP อีอาร์พี ดี?, การบันทึกบัญชีสำหรับธุรกิจการผลิต, การบัญชีเกี่ยวกับธุรกิจเกษตร, ความหมายระบบบัญชีคู่ Double entry bookkeeping ดับเบิล เอนทริ บุ๊คคีพอิง, วิธีการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ บทความโดย: (บริษัทเอ็ม.
ค. - ก. 52 และมีจำนวนบริษัทที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 625 แห่ง ผลการสำรวจในระยะกลางนั้นอันดับ 1 — 3 ยังคงเป็นประเทศจีน อินเดีย และเวียดนามตามลำดับเช่นเดิม ในส่วนของประเทศไทยที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 โดยมีรายละเอียดว่า 1) ร้อยละ 50. 3 ของบริษัทตอบว่า ต้องการจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายกิจการเพิ่มขึ้น 2) ร้อยละ 49. 2 ของบริษัทตอบว่า ต้องการจะรักษาสภาพตลาดปัจจุบัน 3) มีเพียงร้อยละ 0. 6 ของบริษัทที่ตอบว่าจะถอนทุนออกจากประเทศไทย ผลการสำรวจภาพรวม แนวโน้มการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นลดลงเหลือเพียงร้อยละ 66 โดยร้อยละ 65. 8 ของบริษัทตอบว่าต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายกิจการในต่างประเทศเพิ่มขึ้นในระยะกลาง ซึ่งลดลงร้อยละ 13. 4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย อุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มจะลงทุนลดลงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่อุตสาหกรรมอาหารมีแนวโน้มลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 2. 5 Cabinet office รายงานว่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10. 5 ในเดือน ก. 52 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มีมูลค่ารวม 738 พันล้านเยน เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว ทั้งนี้คำสั่งชื้อเครื่องจักรทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.