1269 มาร์โค โปโลในขณะนั้นมีอายุได้ 15 ปี ได้มีโอกาสพบบิดาเป็นครั้งแรก มารดาของมาร์โค โปโลได้เสียชีวิตไปก่อน ที่บิดาของมาร์โค โปโลจะเดินทางกลับถึงบ้านเพียงเล็กน้อย ในปี ค. 1271 มาร์โค โปโล ซึ่งในขณะนั้นอายุได้ 17 ปี ได้ขอเดินทางติดตามบิดาและอากลับไปประเทศจีน พร้อมกับพระราชสาส์นจากพระสันตปาปาเกร็กกอรี่ ที่ 10 (Pope Gregory X) น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยพระ 2 รูป (ซึ่งได้หนีกลับไปหลังจากที่ได้ออกเดินทางไปได้เพียงเล็กน้อย) ครอบครัวโปโลทั้ง 3 คนออกเดินทางจากนครเยรูซาเลมในปี ค.
2, 30, 34, 51, 53, 55 หรือ 7 และลงที่ป้ายจอด MUMIS / North (МУБИС/Хойд) Bus stop * ป้ายหน้ารถเมล์เขียนเป็นภาษามองโกเลียว่า XO2, Ч-30, Ч-34, Ч-51, Ч-53, Ч-55 และ Ч-7 ควรใช้ google Map เพื่อติดตามการเดินทางของคุณ เนื่องจากไม่มีข้อมูลภาษาอังกฤษ และเมื่อขึ้นรถบัสผิด ให้ลงที่ป้ายถัดไป ก่อนลงจากรถอย่าลืมแตะ บัตรยูมันนี่ (U Money) เพื่อใช้ Free Transiting ของคุณภายใน 30 นาที by Google Map Statue of Marco Polo (Марко Поло-гийн Хөшөө)
(2556). การเดินทางของมาร์โค โปโล (The Travels of Marco polo). กรุงเทพ: ยิปซี ศิลปวัฒนธรรม. (2562). ดูวิธีคัดสาวงามบำเรอของผู้นำมองโกลจากบันทึก "มาร์โค โปโล" เช็ก "ของลับ" ต้องไร้ที่ติ. ค้นเมื่อ 28 กันยายน 2563, จาก. First man. (2560). มาร์โค โปโล: นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล. ค้นเมื่อ 28 กันยายน 2563, จาก.
1294 เมื่อเดินทางถึงจึงทราบภายหลังว่า อาร์กุนข่านได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เจ้าหญิงโคคาชินจึงได้เสกสมรสกับโอรสของอาร์กุนข่านแทน เป็นที่น่าเสียดายว่า เจ้าหญิงโคคาชินทรงใช้ชีวิตอยู่ที่เปอร์เซียได้เพียง 2 ปีก็สิ้นพระชนม์ ในระหว่างที่ครอบครัวโปโลพำนักอยู่ที่เปอร์เซียได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของกุบไลข่าน ภายหลังที่กุบไลข่านสิ้นพระชนม์ในปี ค. 1294 อาณาจักรของมองโกลก็เริ่มเสื่อมอำนาจลงอย่างรวดเร็ว ในปี ค.
340–42. ↑ Benedetto, Luigi Foscolo (1965). "Marco Polo, Il Milione". Istituto Geografico DeAgostini (ภาษาอิตาลี). ↑ Rongguang Zhao, Gangliu Wang, Aimee Yiran Wang. A History Of Food Culture In China. p. 94. CS1 maint: multiple names: authors list ( link) ↑ Christopher Kleinhenz. Routledge Revivals: Medieval Italy (2004): An Encyclopedia – Volume II, Volume 2. p. 923. ↑ "Marco Polo".. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2020-06-09. สืบค้นเมื่อ 2021-08-09. ↑ Robin Brown (2008). Marco Polo: Journey to the End of the Earth. Sutton. ↑ Landström 1967, p. 27 แหล่งข้อมูลอื่น [ แก้] ประวัติ มาร์โก โปโล จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
การเดินทางของมาร์โค โปโล (The Travels of Marco Polo) มานูเอล คอมรอฟฟ์ รวบรวม รวีโรจน์ เตยต่อวงศ์กุล แปล จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ยิปซี พิมพ์ครั้งแรก พ. ศ.
ศ. 1214-1294) ซึ่งได้ชักชวนให้บุคคลทั้งสอง เดินทางไปเข้าเฝ้ากุบไลข่าน ผู้ซึ่งมีความปรารถนาที่จะรู้จักกับชาวละตินและศึกษาวัฒนธรรมของชาวละติน นิโคโล โปโลและน้องชายได้ตอบตกลงและได้เดินทางไปกรุงปักกิ่ง (หรือที่สมัยนั้นเรียกว่า คัมบาลุก "Cambaluc") ทั้งสองได้เข้าเฝ้ากุบไลข่านในปี ค. 1266 มองโกลได้เข้าปกครองประเทศจีนและสถาปนาราชวงศ์หยวนขึ้นปกครองในปี ค. 1264 กุบไลข่านเป็นพระราชนัดดาของเจงกีสข่าน ในสมัยนั้นอาณาจักรของมองโกลได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล กุบไลข่านเป็นผู้ที่สนใจใฝ่รู้เรื่องราวและความเชื่อของชาวยุโรปมาก จึงได้ขอให้นิโคโล โปโล และน้องชายเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อเข้าเฝ้าพระสันตปาปา และขอให้ส่งผู้มีความรู้ 100 คน และน้ำมันศักดิ์สิทธิ์จากวิหารThe Holy Sepulchre ในนครเยรูซาเลมกลับมาถวายพระองค์ นิโคโล โปโล และน้องชายได้เดินทางกลับถึงบ้านเกิดทีเมืองเวนิสในปี ค. 1269 มาร์โค โปโลในขณะนั้นมีอายุได้ 15 ปี ได้มีโอกาสพบบิดาเป็นครั้งแรก มารดาของมาร์โค โปโลได้เสียชีวิตไปก่อนที่บิดาของมาร์โค โปโลจะเดินทางกลับถึงบ้านเพียงเล็กน้อย ในปี ค. 1271 มาร์โค โปโล ซึ่งในขณะนั้นอายุได้ 17 ปี ได้ขอเดินทางติดตามบิดาและอากลับไปประเทศจีน พร้อมกับพระราชสาส์นจากพระสันตปาปาเกร็กกอรี่ ที่ 10 (Pope Gregory X) น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยพระ 2 รูป (ซึ่งได้หนีกลับไปหลังจากที่ได้ออกเดินทางไปได้เพียงเล็กน้อย) ครอบครัวโปโลทั้ง 3 คนออกเดินทางจากนครเยรูซาเลมในปี ค.
ข้ามไปเนื้อหา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี มาร์โก โปโล ภาพเหมือนของมาร์โก โปโล [1] เกิด c. 1254 เชื่อว่า เวนิส, สาธารณรัฐเวนิส เสียชีวิต 9 มกราคม ค. ศ. 1324 (69 ปี) เวนิส, สาธารณรัฐเวนิส สุสาน โบสถ์ซานลอเรนโซ, เวนิส 45°15′41″N 12°12′15″E / 45. 2613°N 12. 2043°E อาชีพ พ่อค้า, นักสำรวจ มีชื่อเสียงจาก บันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล คู่สมรส โดนาตา บาโดเออร์ บุตร แฟนตินา, เบลเลลา และมอเร็ตตา บิดามารดา นิกโกโล โปโล (บิดา) นิโกล อันนา เดอฟูเซห์ (มารดา) มาร์โก โปโล (, ภาษาเวเนโต: [ˈmaɾko ˈpolo], ภาษาอิตาลี: [ˈmarko ˈpɔːlo] ( ฟังเสียง); 15 กันยายน ค. 1254 – 8 มกราคม ค. 1324) [2] เป็นพ่อค้าวานิช นักสำรวจ และผู้เขียนชาว เวนิส ซึ่งได้เดินทางผ่านเอเชียไปตาม เส้นทางสายไหม ระหว่างปี ค. 1271 และ ค. 1295 การเดินทางของเขาได้ถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า การเดินทางของมาร์โก โปโล (หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อหนังสือว่า ความมหัศจรรย์ของโลกและเรื่องฝอยล้านเรื่อง ค. 1300) เป็นหนังสือที่บรรยายให้แก่ชาวยุโรปได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมอันลึกลับและการทำงานภายในของโลกตะวันออก รวมทั้งความมั่นคั่งและความยิ่งใหญ่ของ จักรวรรดิมองโกล และจีนในสมัย ราชวงศ์หยวน นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็น จีน เปอร์เซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และเมืองและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย [3] เขาเกิดในเมืองเวนิส มาร์โกได้เรียนรู้การค้าขายจากพ่อและลุงของเขาคือ นิกโกโลและมาฟเฟโอ ซึ่งได้เดินทางผ่านเอเชียและเข้าเฝ้า กุบไล ข่าน ในปี ค.